อุทยานราชภักดิ์ หัวหิน
ยิ่งใหญ่สมเกียรติคุณพระมหากษัตริย์ไทย
เสร็จสิ้นสมบูรณ์และยิ่งใหญ่สมเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทั้ง 7 พระองค์ สำหรับการติดตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม ภายใน "อุทยานราชภักดิ์" ทำให้อุทยานราชภักดิ์ที่ตั้งอยู่ภายในเขตกองทัพบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ทั้งหมดมากถึง 222 ไร่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอหัวหินไปเป็นที่เรียบร้อย
หลายคนสงสัยว่า "อุทยานราชภักดิ์" คืออะไร หมายถึงอะไร อุทยานราชภักดิ์เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม
*ที่มาของอุทยานราชภักดิ์
1. เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณ สมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ อันนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยตราบจนทุกวันนี้
2. เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ
3. เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก รวมถึงนักเรียนทหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้เข้ามาทัศนศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย
2. เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ
3. เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก รวมถึงนักเรียนทหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้เข้ามาทัศนศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย
7 บูรพกษัตริย์แห่งสยาม มีใครบ้าง
กองทัพบกได้คัดเลือกน้อมถวายพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์แต่ละยุคสมัย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพระนามแต่ละพระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ประกอบด้วย7 พระองค์ ดังนี้
1. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สมัยกรุงสุโขทัย) ทรงถือพระแสงของ้าวในอิริยาบถโน้มลงแผ่นดิน มีความหมายว่าพระองค์ได้ผ่านการรบมาโชกโชน แต่ตอนนี้อยากจะปกครองแผ่นดินให้สงบสุขอุดมสมบูรณ์
2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) ทรงถือทวนและสะพายพระแสงดาบในชุดนักรบ แสดงถึงความพร้อมออกรบตลอดเวลา
3. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) อยู่ในฉลองพระองค์เต็มยศและสวมมงกุฎ เนื่องจากช่วงนั้นอยุธยามีการติดต่อกับชาติตะวันตก จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์โบราณ
4. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมัยกรุงธนบุรี) ทรงถือพระแสงดาบด้วยสีหน้าแววตาอันดุดันจากการกรำศึกหนัก
5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่ในอิริยาบถถือพระแสงดาบในฝัก หมายถึงการเป็นเสาหลักแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
6. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย พระองค์เดียวที่ไม่ได้เป็น "มหาราช" แต่ก็ได้รับการยกย่องในอุทยานราชภักดิ์ ด้วยเหตุผลที่เป็นผู้วางรากฐานและเปิดโลกทัศน์ให้กับรัชกาลที่ 5
7. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)ฉลองพระองค์เต็มยศแบบฝรั่งและพระหัตถ์ถือกระบี่ แสดงถึงความมั่นคงของประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น